หลักการทำงานของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ l องค์ประกอบของระบบแจ้งเหตุ

by prawit
225 views
หลักการทำงานของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ _ องค์ประกอบของระบบ

ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System) เป็นอุปกรณ์ที่เป็นส่วนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ต่าง ๆ เช่น อาคารพาณิชย์ โรงงาน โรงแรม หรือที่อยู่อาศัย ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุการณ์เพลิงไหม้ให้ทราบโดยทันที เพื่อให้คนในสถานที่นั้นๆสามารถรับมือกับเหตุการณ์เพลิงไหม้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเซ็นเซอร์

หลักการทำงานของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire alarm)

1. การตรวจจับ

ระบบนี้ใช้เซนเซอร์ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับสัญญาณที่เกิดจากไฟ ซึ่งรวมถึงการตรวจจับความร้อน, ควัน และแก๊สเฉพาะ ๆ ที่สามารถเกิดจากเพลิงไหม้ เช่น ตัวอย่างเซนเซอร์การตรวจจับควัน หรือเซนเซอร์การตรวจจับแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์

2. การประมวลผล

เมื่อเซนเซอร์ตรวจจับสัญญาณที่เกินค่าที่กำหนดไว้ ระบบจะประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นและทำการส่งสัญญาณเตือนให้ทราบ

3. การแจ้งเตือน

การแจ้งเตือนเป็นขั้นตอนสำคัญในระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ระบบจะใช้หลายวิธีในการแจ้งเตือน เช่น การใช้เครื่องส่งเสียง เปิดไฟแจ้งเตือน หรือส่งข้อความที่แสดงบนหน้าจอ การแจ้งเตือนนี้มีไว้เพื่อแจ้งเตือนคนที่อาศัยในอาคารหรือพื้นที่ที่เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์เพลิงไหม้

4. การควบคุม

บางระบบมีความสามารถในการควบคุมระบบอื่น ๆ ในอาคาร เช่น การปิดหรือเปิดระบบระบายอากาศ ปิดประตูที่ทำจากเหล็กหรือเปิดระบบดับเพลิง การควบคุมนี้ช่วยในการจัดการเหตุการณ์เพลิงไหม้และควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. การติดต่อกับศูนย์รับแจ้ง

บางระบบสามารถติดต่อกับศูนย์รับแจ้งเหตุดับเพลิงหรือบริการรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติเมื่อตรวจจับเหตุการณ์เพลิงไหม้ เป็นการประสานข้อมูลที่ช่วยให้การรับมือกับเหตุการณ์เพลิงไหม้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

Manual Pull Stations

ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire alarm) ประกอบด้วยอุปกรณ์อะไรบ้าง

ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ (Fire Alarm System) ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายส่วนที่ทำงานร่วมกันเพื่อตรวจจับเหตุการณ์เพลิงไหม้และแจ้งเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ส่วนประกอบหลักของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ประกอบด้วย:

  1. เซนเซอร์ (Sensors): เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ เช่น
    • เซนเซอร์การตรวจจับควัน (Smoke Detectors): ตรวจจับควันที่เกิดจากเพลิงไหม้
    • เซนเซอร์การตรวจจับความร้อน (Heat Detectors): ตรวจจับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่เกิดจากเพลิงไหม้
    • เซนเซอร์การตรวจจับแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide Detectors): ตรวจจับแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เกิดจากเพลิงไหม้
  2. แบตเตอรี่สำรอง (Backup Batteries): ใช้เพื่อให้ระบบยังทำงานได้ในกรณีที่มีขาดไฟฟ้าหรือไฟฟ้าตกต่ำ
  3. คอนโทรลแพนเล่ (Control Panel): อุปกรณ์สำหรับควบคุมและดูแลระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทั้งหมด รวมถึงส่งสัญญาณเตือนให้กับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น เปิดเสียงเตือน แสดงข้อความ หรือเปิดไฟแจ้งเตือน
  4. หน่วยส่งสัญญาณ (Notification Devices): อุปกรณ์ที่ใช้แจ้งเตือนผู้ใช้งานหรือคนในสถานที่ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ เช่น
    • เสียงเตือน (Audible Alarms): เสียงกระฉูดกระเชือกเพื่อประกาศเหตุการณ์เพลิงไหม้
    • ไฟแจ้งเตือน (Visual Alarms): ไฟสีสว่างที่กระพริบหรือติดต่อเพื่อแสดงเตือน
    • หน้าจอแสดงข้อความ (Message Display Panels): หน้าจอที่แสดงข้อความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์
  5. ปุ่มกด ปุ่มดึงเพื่อแจ้งเหตุ (Manual Pull Stations): อุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานสามารถกดเพื่อแจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยตนเองในกรณีฉุกเฉิน
  6. สายไฟและสายสื่อสาร (Wiring and Communication): ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ระหว่างอุปกรณ์แต่ละชิ้น
  7. หน่วยควบคุมระยะไกล (Remote Monitoring Unit): หากต้องการการตรวจสอบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้จากระยะไกล
  8. ระบบสำรองอื่น ๆ : การใช้ระบบสำรองหรือระบบที่เพิ่มเติมเข้ามาตามความต้องการของผู้ติดตั้ง เช่น ระบบดับเพลิงที่ถูกเพิ่มเข้ามาเมื่อมีการตรวจวัดว่ามีเหตุเพลิงไหม้ระบบดับเพลิงจะทำงานทันที

การติดตั้งระบบ

ควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้

  1. การประเมินความเสี่ยง: ให้ทำการประเมินความเสี่ยงของสถานที่หรืออาคารเพื่อระบุความเหมาะสมของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ โดยควรพิจารณาประเภทของสถานที่ เป้าหมายการใช้งาน เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่อาจเกิดขึ้น และขนาดของสถานที่เพื่อให้เลือกใช้ระบบที่เหมาะสม
  2. ประเภทของระบบ: คุณควรเลือกประเภทของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่เหมาะกับประเภทของอาคารหรือสถานที่ โดยมีระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้สองประเภทหลักคือ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้เป็นโซน และ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้เป็นจุด
  3. การตรวจจับและอุปกรณ์: ควรเลือกเซนเซอร์ตรวจจับที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของอาคารหรือสถานที่ เช่น เซนเซอร์การตรวจจับควัน ตรวจจับความร้อน หรือตรวจจับแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ อุปกรณ์เหล่านี้ควรมีความน่าเชื่อถือและผ่านการรับรองมาตรฐาน
  4. การติดตั้งและการบำรุงรักษา: การติดตั้งระบบควรทำโดยช่างมีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามมาตรฐาน
  5. การเรียนรู้และการฝึกอบรม: ควรจัดการฝึกอบรมแก้ไขหรือการดูแลรักษาระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พวกเขาเข้าใจและรู้จักวิธีการใช้ระบบอย่างถูกต้อง
  6. การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐาน: ควรตรวจสอบกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งและใช้งานระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ของคุณ และแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านั้นอย่างเคร่งครัดทั้งทางด้านของก่อนติดตั้งควรมีอะไรบ้างและหลังติดตั้งต้องทำการตรวจเช็คระบบแจ้งเหตุไฟไหม้, บำรุงรักษาระบบแจ้งเหตุไฟไหม้ อะไรบ้างและต้องทำบ่อยแค่ไหน

คุณสามารถติดตามข้อมูลและใช้บริการตรวจเช็คระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ได้ที่นี่ –> บริการตรวจเช็คระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ
ใบอนุญาต อบรม จป.หัวหน้างาน และ จป.บริหาร บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์ จำกัด

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

หลักสูตรอบรม จป
หลักสูตรอบรม ความปลอดภัย

บริการตรวจรับรอง

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2024 , A Media Company – All Right Reserved. Designed and Developed by safetymember safety member