ความรู้เบื้องต้นสารเคมีตามหลัก GHS / การจำแนกประเภทสาเคมีสากล

by prawit
256 views
ความรู้เบื้องต้นสารเคมีตามหลัก GHS _ การจำแนกประเภทสาเคมีสากล

การใช้สารเคมีในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สารเคมีมีอยู่รอบตัวเราในทุกแง่มุมของชีวิต เริ่มตั้งแต่การใช้สารเคมีในบ้าน การใช้ในอุตสาหกรรม หรือการใช้ในสถานที่ทำงาน การใช้สารเคมีนี้อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าการใช้สารเคมีเป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัย หลักการประเมินความเสี่ยงของสารเคมีและการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ

GHS คืออะไร

หลัก GHS หรือ Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การแรงงานนานาชาติ (ILO) เพื่อให้มีข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่เข้าใจตรงกันทั่วโลก ซึ่งเป็นที่ยอมรับและนำไปใช้ในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเรียง การจำแนกประเภท และการป้ายกำกับสารเคมี

ประเภทสารเคมีตามหลัก GHS

ประเภทสารเคมีตามหลัก GHS

ประเภทสารเคมีตามหลัก GHS ถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มตามผลกระทบความอันตรายในด้านต่างๆ โดยที่แต่ละกลุ่มจะมีสัญลักษณ์และป้ายกำกับที่แตกต่างกันตามลักษณะการเป็นอันตรายของสารเคมีซึ่งมีดังนี้

1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสารเคมีตามหลัก GHS: การจำแนกประเภทประเภทสารเคมีความเป็นอันตรายทางกายภาพ 17 ประเภท

  1. วัตถุระเบิด (Explosives): เป็นสารหรือส่วนประกอบที่มีความสามารถในการสร้างการระเบิดโดยทันทีเมื่อได้รับการกระตุ้น โดยสารเหล่านี้มักจะมีความต้านทานต่อการจุดไฟ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีความรุนแรงและต่อเนื่อง
  2. ก๊าซไวไฟ (Flammable Gases): ก๊าซที่สามารถติดไฟและเผาไหม้ได้เมื่อมีการสัมผัสกับแหล่งเชื้อเพลิง มักมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยเนื่องจากการระเบิดหรือการไหม้ได้โดยง่าย ซึ่งมักจะติดไฟที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ความดันบรรยายกาศ 1 บรรยากาศ
  3. ละอองลอยไวไฟ (Aerosols): สารที่ถูกเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ซึ่งมีแรงดันเกิดขึ้นภายใน และมีสารละลายเป็นก๊าซหรือของแข็ง โดยมักจะเป็นเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่ายหรือมีความอันตรายต่อสุขภาพ
  4. ก๊าซออกซิไดส์ (Oxidizing Gases): ก๊าซที่มีความสามารถในการเพิ่มความออกซิเดชั่นของสารอื่นๆ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเผาไหม้หรือการระเบิดเมื่อมีการผสมกับสารอื่นๆ
  5. ก๊าซภายใต้ความดัน (Gases Under Pressure): สารที่ถูกเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีแรงดันสูงกว่าปกติ การหลุดหรือการเสียดทานของบรรจุภัณฑ์อาจทำให้เกิดอันตราย
  6. ของเหลวไวไฟ (Flammable Liquids): ของเหลวที่สามารถติดไฟและไหม้ได้ง่ายเมื่อมีการสัมผัสกับแหล่งเชื้อเพลิง มักมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการไหม้
  7. ของแข็งไวไฟ (Flammable Solids): สารที่เป็นของแข็งและสามารถติดไฟและเผาไหม้ได้ง่าย มักมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการไหม้
  8. สารที่ทำปฏิกิริยาได้เอง (Self-Reactive Substances and Mixtures): สารหรือสารผสมที่สามารถทำปฏิกิริยาเองได้โดยไม่ต้องมีการกระตุ้นจากสารอื่นๆ มักมีความต้านทานต่อความร้อนและแรงกระแทกต่ำ
  9. ของเหลวที่ลุกติดไฟได้เองในอากาศ (Pyrophoric Liquids): ของเหลวที่มีความสามารถในการติดไฟโดยเกิดขึ้นเองเมื่อมีการสัมผัสกับอากาศถึงแม้จะมีปริมาณเล็กน้อย มักมีความเสี่ยงต่อความรุนแรงและการเกิดเพลิงไหม้โดยไม่ต้องมีแหล่งเชื้อเพลิง
  10. ของแข็งที่ลุกติดไฟได้เองในอากาศ (Pyrophoric Solids): ของแข็งที่มีความสามารถในการติดไฟโดยเกิดขึ้นเองเมื่อมีการสัมผัสกับอากาศ มักมีความเสี่ยงต่อความรุนแรงและการเกิดเพลิงไหม้โดยไม่ต้องมีแหล่งเชื้อเพลิง
  11. สารที่เกิดความร้อนได้เอง (Self-Heating Substances and Mixtures): สารที่มีความสามารถในการสร้างความร้อนเองโดยไม่ต้องมีการกระตุ้นจากภายนอก ทำให้เกิดความร้อนสูงเมื่อมีการสัมผัสกับอากาศหรือน้ำ
  12. สารที่สัมผัสน้ำแล้วให้ก๊าซไวไฟ (Substances and Mixtures which, in Contact with Water, Emit Flammable Gases): สารหรือสารผสมที่มีความสามารถในการสร้างก๊าซไวไฟโดยเกิดจากการสัมผัสกับน้ำ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิด
  13. ของเหลวออกซิไดส์ (Oxidizing Liquids): ของเหลวที่มีความสามารถในการเพิ่มความออกซิเดชั่นของสารอื่นๆ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเผาไหม้หรือการระเบิดเมื่อมีการผสมกับสารอื่นๆ
  14. ของแข็งออกซิไดส์ (Oxidizing Solids): สารที่เป็นของแข็งและสามารถเพิ่มความออกซิเดชั่นของสารอื่นๆ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเผาไหม้หรือการระเบิดเมื่อมีการผสมกับสารอื่นๆ
  15. สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ (Organic Peroxides): สารที่มีโครงสร้างอินทรีย์ซึ่งมีลิงก์ที่เป็นออกไซด์ มักจะเป็นเชื้อเพลิงที่เร่งการไหม้และมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง
  16. สารกัดกร่อนโลหะ (Corrosive to Metals): สารที่สามารถกัดกร่อนหรือทำลายโลหะได้เมื่อมีการสัมผัส มักมีความเสี่ยงต่อการทำลายสิ่งแวดล้อมและการบาดเจ็บ
  17. สารที่มีการหน่วงการระเบิด (Desensitized explosive): วัตถุระเบิดที่ผ่านการปรับปรุงเพื่อลดความอันตรายและการระเบิดโดยการเพิ่มสารประสานที่ทำให้ระเบิดได้ยากขึ้น แต่ยังคงมีความสามารถในการระเบิดเมื่อได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม

ประเภทสารเคมีความเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 10 ประเภท

2. ประเภทสารเคมีความเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 10 ประเภท

  1. ความเป็นพิษเฉียบพลัน (Acute toxicity): เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสหรือการได้รับสารเคมีที่มีความพิษในระดับสูงโดยตรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพทันทีหลังการสัมผัส
  2. การกัดกร่อนการระคายเคืองต่อผิวหนัง (Skin corrosion/irritation): สารที่สามารถทำลายหรือกระตุ้นการระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น การกัดกร่อนหรือการทำให้ผิวหนังระคายเคือง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังและสร้างความเจ็บปวด
  3. การทำลายดวงตาอย่างรุนแรง / การละคายเคืองต่อดวงตา (Serious eye damage/eye irritation): ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารเคมีที่สามารถทำลายดวงตา
  4. ความไวต่อการแพ้กับระบบทางเดินหายใจหรือผิวหนัง (Respiratory/skin sensitization): เป็นการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการเป็นแพ้ต่อสารเคมีซึ่งอาจทำให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะต่อระบบทางเดินหายใจหรือผิวหนัง
  5. การกลายพันธ์ุของเซลล์สืบพันธ์ุ (Germ cell mutagenicity): เป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเซลล์สืบพันธุ์หรือเกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์สืบพันธุ์
  6. ความสามารถในการก่อมะเร็ง (Carcinogenicity): เป็นการประเมินความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดการเป็นโรคมะเร็งเมื่อมีการสัมผัสกับสารเคมี
  7. ความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธ์ุ (Reproductive toxicity): เป็นการประเมินความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบสืบพันธุ์หรือสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อการสืบพันธุ์ได้
  8. ความเป็นพิษต่อระบบอวัยวะเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง การได้รับสัมผัสครั้งเดียว (Specific target organ toxicity-single exposure): เป็นการประเมินความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะหรือระบบที่เป้าหมายโดยเฉพาะเมื่อมีการสัมผัสครั้งเดียว
  9. ความเป็นพิษต่อระบบอวัยวะเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง การได้รับสัมผัสซ้ำ (Specific target toxicity-repeated exposure): เป็นการประเมินความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะหรือระบบที่เป้าหมายโดยเฉพาะเมื่อมีการสัมผัสซ้ำ
  10. ความเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่างหรือทำให้ปอดอักเสบ (Aspiration hazard): เป็นการประเมินความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่างหรือเกิดอาการปอดอักเสบเมื่อมีการสูดดมสารเคมีเข้าไปในปอดและหลอดลม

3. ประเภทสารเคมีความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม 2 ประเภท

  1. ความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในน้ำ (Hazardous to the aquatic environment): สสารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนที่ถูกปล่อยลงในทะเลน้ำหรือแม้กระทั่งน้ำจืด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลหรือบนผิวน้ำ เช่น การทำลายของประชากรสัตว์น้ำ หรือการทำลายฮิวมัสในระบบนิเวศน้ำ
  2. ความเป็นอันตรายต่อโอโซนในชั้นบรรยากาศ (Hazardous to the ozone layer) สารเคมีที่ส่งผลต่อกระทบต่อชั้นบรรยากาศในชั้นโอโซน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปกป้องโลกจากรังสี UV และการควบคุมอุณหภูมิของโลก การปล่อยสารเคมีหรือก๊าซที่ทำลายโอโซนสามารถทำให้ชั้นโอโซนบรรยากาศบาดเจ็บและมีผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่บนโลก

การประยุกต์ใช้ GHS1.0

การประยุกต์ใช้ GHS

การประยุกต์ใช้ GHS มีความสำคัญต่อหลายภาคส่วน เช่น

  • อุตสาหกรรม: การใช้ GHS ในอุตสาหกรรมช่วยให้ผู้ประกอบการทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีในการผลิตและกระบวนการอื่น ๆ
  • การค้า: GHS ช่วยให้ผู้ค้ารับทราบถึงความเสี่ยงของสารเคมีที่มีในสินค้าและวัตถุอื่น ๆ ที่เข้ามาในการค้าระหว่างประเทศ รู้วิธีการจัดเก็บและข้อควรระวังในการขนส่งสารเคมีอันตราย
  • การใช้ในสถานที่ทำงาน: การรู้หลัก GHS ในสถานที่ทำงานช่วยให้ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีในการทำงาน

สรุป

GHS เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประเมินความเสี่ยงและการสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีที่มีความปลอดภัย มันช่วยให้ผู้ใช้ทั้งหมดเข้าใจและจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีในทุกๆ ด้านของชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

หากคุณสนใจเรียนรู้การทำงานกับสารเคมีอย่างปลอดภัยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ —> อบรมไฟฟ้า 

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ
ใบอนุญาต อบรม จป.หัวหน้างาน และ จป.บริหาร บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์ จำกัด

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

หลักสูตรอบรม จป
หลักสูตรอบรม ความปลอดภัย

บริการตรวจรับรอง

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2024 , A Media Company – All Right Reserved. Designed and Developed by safetymember safety member