“เครน” (Crane) ถือเป็นเครื่องจักรสำคัญในภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และการขนส่ง ที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายวัสดุหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการใช้งานเครน กฎหมายไทยได้กำหนดให้มีการตรวจสอบและทดสอบเครน รวมถึงการทำ “Load Test” หรือการทดสอบการรับน้ำหนักตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ การทำ Load Test จึงเป็นกระบวนการที่ไม่เพียงแต่บังคับตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันความปลอดภัยของอุปกรณ์ก่อนการใช้งานจริงอีกด้วย
ความสำคัญของการทำ Load Test เครน
การทำ Load Test เป็นกระบวนการทดสอบสมรรถนะของเครนในการรับน้ำหนักบรรทุกที่กำหนด เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้
-
ยืนยันว่าเครนสามารถรับน้ำหนักได้ตามค่าที่ระบุ (Rated Load)
-
ตรวจสอบความมั่นคงและความสมดุลของเครนระหว่างการใช้งาน
-
ตรวจจับข้อบกพร่องของระบบ เช่น รอยร้าว การสึกหรอ หรือการทำงานผิดปกติ
-
ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการใช้เครนที่ชำรุด
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำ Load Test เครนในประเทศไทย
การทำ Load Test เครนในประเทศไทยอ้างอิงจากกฎหมายและมาตรฐานที่สำคัญ ได้แก่
-
พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
-
มาตรฐาน มอก. 1006-2535 (ปั้นจั่น: ข้อกำหนดทั่วไป)
-
มาตรฐาน มอก. 1015-2537 (ปั้นจั่น: การทดสอบภาระ)
โดยเฉพาะ “กฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2552” ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสอบและทดสอบปั้นจั่นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือหลังการติดตั้ง ย้าย หรือซ่อมแซมที่มีผลต่อโครงสร้าง และต้องจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเก็บไว้
ประเภทของ Load Test
Load Test สามารถจำแนกได้ตามลักษณะการทดสอบหลัก ๆ ได้แก่:
-
Static Load Test: ทดสอบโดยการแขวนภาระที่มากกว่าค่าน้ำหนักใช้งานสูงสุด (Rated Load) 25% โดยไม่เคลื่อนย้ายเครน เพื่อประเมินความมั่นคง
-
Dynamic Load Test: ทดสอบโดยการเคลื่อนย้ายภาระที่มีน้ำหนักเท่ากับ Rated Load เพื่อทดสอบการทำงานของกลไกต่าง ๆ เช่น การยกขึ้น-ลง การเคลื่อนที่ตามแนวราบ การหมุน ฯลฯ
ขั้นตอนการทำ Load Test เครน ตามกฎหมายไทย
1. การเตรียมการก่อนทำ Load Test
1. ตรวจสอบเอกสารและข้อมูลพื้นฐานของเครน
-
- แบบแปลนหรือคู่มือของเครน
- ข้อมูล Rated Load และโครงสร้าง
- ประวัติการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่ผ่านมา
2. จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการทดสอบ
-
- ลูกตุ้มน้ำหนัก หรือวัสดุทดสอบที่มีน้ำหนักเป็นที่ทราบแน่นอน
- เครื่องมือวัดน้ำหนัก (Load Cell) ที่สอบเทียบแล้ว
- อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เชือกกันตก, หมวกนิรภัย, อุปกรณ์ป้องกันการลื่นไถล
3. วางแผนการทดสอบ
-
- กำหนดพื้นที่ทดสอบให้ปลอดภัย ไม่มีผู้ไม่เกี่ยวข้องอยู่ใกล้
- ประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) และกำหนดมาตรการป้องกัน
ก่อนทำ Load Test เครน วิศวกรต้องตรวจสอบสภาพพื้นหรือโครงสร้างที่ติดตั้งเครนก่อนเสมอ เพราะพื้นหรือฐานที่ไม่มั่นคง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะทดสอบ แม้ตัวเครนจะยังอยู่ในสภาพดี
4. แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบ
-
- ต้องเป็นวิศวกรเครื่องกลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม >> (คุณสมบัติผู้ตรวจสอบเครน)
- หรือเป็นหน่วยงานตรวจสอบที่ได้รับอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
ขั้นตอนการทำ Load Test
-
การทดสอบ Static Load Test
-
ยกน้ำหนักทดสอบที่น้ำหนัก 125% ของ Rated Load
-
แขวนไว้นิ่ง ๆ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 นาที
-
สังเกตการผิดรูปถาวร การร้าว การแตกร้าวของโครงสร้าง
-
บันทึกผลการทดสอบโดยละเอียด
-
-
การทดสอบ Dynamic Load Test
-
ยกน้ำหนักที่เท่ากับ 100% ของ Rated Load
-
ทดสอบการเคลื่อนที่ในทุกทิศทาง เช่น
-
ยกขึ้น-ลง
-
หมุนซ้าย-ขวา
-
เคลื่อนที่แนวราบ
-
-
ตรวจสอบการทำงานของเบรก, ลิมิตสวิตช์, กลไกขับเคลื่อน และอุปกรณ์นิรภัย
-
การประเมินผลการทดสอบเครน
-
หากไม่พบความผิดปกติ หรือไม่เกินค่าความคลาดเคลื่อนที่กำหนด ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ
-
หากพบปัญหา เช่น การผิดรูปถาวร, รอยร้าว, การทำงานผิดปกติ ต้องหยุดใช้งานทันที และดำเนินการซ่อมแซมก่อนใช้งานอีกครั้ง
-
ต้องจัดทำ รายงานผลการทดสอบ อย่างเป็นทางการให้กับผู้ว่าจ้าง และเจ้าของเครนควรเก็บเป็นหลักฐานการตรวจไว้ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือแสดงเมื่อมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
ข้อควรระวังในการทำ Load Test
-
ต้องดำเนินการภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ของไทยจะกำหนดคุณสมบัติไว้ตามกฎหมาย >> (คุณสมบัติผู้ตรวจสอบเครน)
-
พื้นที่ทดสอบต้องมีการกั้นเขตชัดเจน
-
ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้พื้นที่ขณะทำการทดสอบ
-
ต้องเตรียมแผนฉุกเฉินรองรับกรณีเกิดเหตุผิดปกติ
กรณีที่ต้องทำ Load Test นอกเหนือจากการตรวจสอบประจำปี
นอกจากการตรวจสอบประจำปีแล้ว หากมีเหตุการณ์อื่นๆ ต้องมีการตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เช่น
-
เมื่อติดตั้งเครนใหม่
-
หลังการย้ายที่ติดตั้งเครน
-
หลังการซ่อมแซมใหญ่ที่กระทบต่อโครงสร้างหลัก
-
หลังเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเครน
-
เมื่อหน่วยงานตรวจสอบเห็นสมควรตามความเหมาะสม
สรุป
การทำ Load Test เครนตามมาตรฐานกฎหมายไทยไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินทั้งของผู้ใช้งานและองค์กรเอง ขั้นตอนการดำเนินการต้องมีความละเอียด รอบคอบ และดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด การใส่ใจในขั้นตอนการทำ Load Test จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานประกอบการ
หากคุณกำลังมองหาทีมวิศวกรที่มีใบรับรองและประสบการณ์ในการตรวจสอบเครน ตามมาตรฐานกฎหมายไทย ทีมงานของเราพร้อมให้บริการตรวจสอบและออกเอกสารรับรองอย่างถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมคำแนะนำด้านความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : (064) 958 7451
อ้างอิง
-
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2552). กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552.
-
พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554.
-
สมอ. (2535). มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 1006-2535 ปั้นจั่น: ข้อกำหนดทั่วไป.
-
สมอ. (2537). มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 1015-2537 ปั้นจั่น: การทดสอบภาระ.
-
International Labour Organization (ILO). (1998). Safety and Health in the Use of Machinery.
-
American Society of Mechanical Engineers (ASME). (2021). ASME B30.5 Mobile and Locomotive Cranes.
บทความที่น่าสนใจ
- ความต่าง Risk Assessment กับ JSA เครื่องมือบริหารความเสี่ยงในงาน
- ILO คืออะไร : องค์กรแรงงานระหว่างประเทศ
- ACGIH กับบทบาทในอาชีวอนามัย: มาตรฐานที่คุณควรรู้