ขั้นตอนการทำ Load Test เครน ตามมาตรฐานกฎหมายไทยที่คุณต้องรู้

by pam
4 views
การทำ Load Test เครน

“เครน” (Crane) ถือเป็นเครื่องจักรสำคัญในภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และการขนส่ง ที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายวัสดุหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อรับประกันความปลอดภัยในการใช้งานเครน กฎหมายไทยได้กำหนดให้มีการตรวจสอบและทดสอบเครน รวมถึงการทำ “Load Test” หรือการทดสอบการรับน้ำหนักตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ การทำ Load Test จึงเป็นกระบวนการที่ไม่เพียงแต่บังคับตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันความปลอดภัยของอุปกรณ์ก่อนการใช้งานจริงอีกด้วย

ความสำคัญของการทำ Load Test เครน

การทำ Load Test เป็นกระบวนการทดสอบสมรรถนะของเครนในการรับน้ำหนักบรรทุกที่กำหนด เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้

  • ยืนยันว่าเครนสามารถรับน้ำหนักได้ตามค่าที่ระบุ (Rated Load)

  • ตรวจสอบความมั่นคงและความสมดุลของเครนระหว่างการใช้งาน

  • ตรวจจับข้อบกพร่องของระบบ เช่น รอยร้าว การสึกหรอ หรือการทำงานผิดปกติ

  • ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการใช้เครนที่ชำรุด

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำ Load Test

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำ Load Test เครนในประเทศไทย

การทำ Load Test เครนในประเทศไทยอ้างอิงจากกฎหมายและมาตรฐานที่สำคัญ ได้แก่

โดยเฉพาะ “กฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2552” ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสอบและทดสอบปั้นจั่นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือหลังการติดตั้ง ย้าย หรือซ่อมแซมที่มีผลต่อโครงสร้าง และต้องจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเก็บไว้

ประเภทของ Load Test

Load Test สามารถจำแนกได้ตามลักษณะการทดสอบหลัก ๆ ได้แก่:

  • Static Load Test: ทดสอบโดยการแขวนภาระที่มากกว่าค่าน้ำหนักใช้งานสูงสุด (Rated Load) 25% โดยไม่เคลื่อนย้ายเครน เพื่อประเมินความมั่นคง

  • Dynamic Load Test: ทดสอบโดยการเคลื่อนย้ายภาระที่มีน้ำหนักเท่ากับ Rated Load เพื่อทดสอบการทำงานของกลไกต่าง ๆ เช่น การยกขึ้น-ลง การเคลื่อนที่ตามแนวราบ การหมุน ฯลฯ

ขั้นตอนการทำ Load Test เครน ตามกฎหมายไทย

ขั้นตอนการทำ Load Test เครน ตามกฎหมายไทย

1. การเตรียมการก่อนทำ Load Test

1. ตรวจสอบเอกสารและข้อมูลพื้นฐานของเครน

    • แบบแปลนหรือคู่มือของเครน
    • ข้อมูล Rated Load และโครงสร้าง
    • ประวัติการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่ผ่านมา

2. จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการทดสอบ

    • ลูกตุ้มน้ำหนัก หรือวัสดุทดสอบที่มีน้ำหนักเป็นที่ทราบแน่นอน
    • เครื่องมือวัดน้ำหนัก (Load Cell) ที่สอบเทียบแล้ว
    • อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เชือกกันตก, หมวกนิรภัย, อุปกรณ์ป้องกันการลื่นไถล

3. วางแผนการทดสอบ

    • กำหนดพื้นที่ทดสอบให้ปลอดภัย ไม่มีผู้ไม่เกี่ยวข้องอยู่ใกล้
    • ประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) และกำหนดมาตรการป้องกัน

ก่อนทำ Load Test เครน วิศวกรต้องตรวจสอบสภาพพื้นหรือโครงสร้างที่ติดตั้งเครนก่อนเสมอ เพราะพื้นหรือฐานที่ไม่มั่นคง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะทดสอบ แม้ตัวเครนจะยังอยู่ในสภาพดี

4. แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบ

    • ต้องเป็นวิศวกรเครื่องกลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม >> (คุณสมบัติผู้ตรวจสอบเครน)
    • หรือเป็นหน่วยงานตรวจสอบที่ได้รับอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

ขั้นตอนการทำ Load Test

  1. การทดสอบ Static Load Test

    • ยกน้ำหนักทดสอบที่น้ำหนัก 125% ของ Rated Load

    • แขวนไว้นิ่ง ๆ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 10 นาที

    • สังเกตการผิดรูปถาวร การร้าว การแตกร้าวของโครงสร้าง

    • บันทึกผลการทดสอบโดยละเอียด

  2. การทดสอบ Dynamic Load Test

    • ยกน้ำหนักที่เท่ากับ 100% ของ Rated Load

    • ทดสอบการเคลื่อนที่ในทุกทิศทาง เช่น

      • ยกขึ้น-ลง

      • หมุนซ้าย-ขวา

      • เคลื่อนที่แนวราบ

    • ตรวจสอบการทำงานของเบรก, ลิมิตสวิตช์, กลไกขับเคลื่อน และอุปกรณ์นิรภัย

การประเมินผลการทดสอบเครน

การประเมินผลการทดสอบเครน

  • หากไม่พบความผิดปกติ หรือไม่เกินค่าความคลาดเคลื่อนที่กำหนด ให้ถือว่าผ่านการทดสอบ

  • หากพบปัญหา เช่น การผิดรูปถาวร, รอยร้าว, การทำงานผิดปกติ ต้องหยุดใช้งานทันที และดำเนินการซ่อมแซมก่อนใช้งานอีกครั้ง

  • ต้องจัดทำ รายงานผลการทดสอบ อย่างเป็นทางการให้กับผู้ว่าจ้าง  และเจ้าของเครนควรเก็บเป็นหลักฐานการตรวจไว้ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือแสดงเมื่อมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

ข้อควรระวังในการทำ Load Test

  • ต้องดำเนินการภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ของไทยจะกำหนดคุณสมบัติไว้ตามกฎหมาย >> (คุณสมบัติผู้ตรวจสอบเครน)

  • พื้นที่ทดสอบต้องมีการกั้นเขตชัดเจน

  • ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้พื้นที่ขณะทำการทดสอบ

  • ต้องเตรียมแผนฉุกเฉินรองรับกรณีเกิดเหตุผิดปกติ

กรณีที่ต้องทำ Load Test นอกเหนือจากการตรวจสอบประจำปี

นอกจากการตรวจสอบประจำปีแล้ว หากมีเหตุการณ์อื่นๆ ต้องมีการตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เช่น

  • เมื่อติดตั้งเครนใหม่

  • หลังการย้ายที่ติดตั้งเครน

  • หลังการซ่อมแซมใหญ่ที่กระทบต่อโครงสร้างหลัก

  • หลังเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเครน

  • เมื่อหน่วยงานตรวจสอบเห็นสมควรตามความเหมาะสม

สรุป

การทำ Load Test เครนตามมาตรฐานกฎหมายไทยไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินทั้งของผู้ใช้งานและองค์กรเอง ขั้นตอนการดำเนินการต้องมีความละเอียด รอบคอบ และดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนด การใส่ใจในขั้นตอนการทำ Load Test จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานประกอบการ

หากคุณกำลังมองหาทีมวิศวกรที่มีใบรับรองและประสบการณ์ในการตรวจสอบเครน ตามมาตรฐานกฎหมายไทย ทีมงานของเราพร้อมให้บริการตรวจสอบและออกเอกสารรับรองอย่างถูกต้อง ครบถ้วน พร้อมคำแนะนำด้านความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : (064) 958 7451


อ้างอิง

  1. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2552). กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552.

  2. พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554.

  3. สมอ. (2535). มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 1006-2535 ปั้นจั่น: ข้อกำหนดทั่วไป.

  4. สมอ. (2537). มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 1015-2537 ปั้นจั่น: การทดสอบภาระ.

  5. International Labour Organization (ILO). (1998). Safety and Health in the Use of Machinery.

  6. American Society of Mechanical Engineers (ASME). (2021). ASME B30.5 Mobile and Locomotive Cranes.


บทความที่น่าสนใจ

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2025 SAFETYMEMBER. Developed website and SEO by iPLANDIT