ACGIH กับบทบาทในอาชีวอนามัย: มาตรฐานที่คุณควรรู้

by pam
84 views
มาตรฐาน ACGIH

ACGIH หรือ American Conference of Governmental Industrial Hygienists เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงานทั่วโลก แม้จะไม่ได้เป็นองค์กรที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย แต่มาตรฐานและคำแนะนำของ ACGIH ได้รับการยอมรับและนำไปใช้โดยหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ เช่น องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และหน่วยงานของรัฐในหลายประเทศ

ACGIH คืออะไร

American Conference of Governmental Industrial Hygienists (ACGIH) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1938 ในฐานะองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาความปลอดภัยและสุขภาพของคนงานในสถานที่ทำงาน

ปัจจุบัน ACGIH มีสมาชิกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความปลอดภัยจากหลากหลายสาขา เช่น นักอาชีวอนามัย วิศวกรสิ่งแวดล้อม และนักวิจัย โดยองค์กรนี้ทำหน้าที่วิจัยและจัดทำคำแนะนำเกี่ยวกับการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน

บทบาทของ ACGIH

บทบาทสำคัญของ ACGIH สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่

  1. การกำหนดค่า TLV และ BEI
    • TLV (Threshold Limit Values): คือค่าจำกัดความเข้มข้นสูงสุดของสารเคมีหรือปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพที่คนงานสามารถสัมผัสได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
    • BEI (Biological Exposure Indices): เป็นดัชนีชี้วัดการสัมผัสสารเคมีในร่างกาย โดยอิงจากการตรวจวัดตัวอย่างทางชีวภาพ เช่น เลือดหรือปัสสาวะ
  2. การวิจัยและเผยแพร่ข้อมูล
    ACGIH มุ่งมั่นพัฒนางานวิจัยเพื่อปรับปรุงมาตรฐานและแนวปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะการเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ เช่น สารเคมีชนิดใหม่หรือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
  3. การจัดอบรมและสัมมนา
    องค์กรนี้มีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้เชี่ยวชาญในสายงานอาชีวอนามัย โดยมีหัวข้อที่ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์และการปฏิบัติจริง

กราฟค่า TLV

TLV และ BEI: หัวใจของ ACGIH

ค่า TLV และ BEI เป็นผลงานที่สำคัญที่สุดของ ACGIH ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวทางในการควบคุมความเสี่ยงในที่ทำงาน

  1. ประเภทของ TLV
    TLV แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

    • TLV-TWA (Time-Weighted Average): ค่าความเข้มข้นเฉลี่ยในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง
    • TLV-STEL (Short-Term Exposure Limit): ค่าความเข้มข้นสูงสุดที่อนุญาตในช่วง 15 นาที
    • TLV-C (Ceiling): ค่าความเข้มข้นที่ไม่ควรเกินเลยในช่วงเวลาใด ๆ
  2. ตัวอย่างการใช้ BEI
    ค่า BEI ใช้ในการตรวจสอบว่าคนงานได้รับการป้องกันที่เหมาะสมหรือไม่ เช่น การตรวจหาสารตะกั่วในปัสสาวะของคนงานในโรงงานแบตเตอรี่

ในการดูแลความปลอดภัยในการทำงาน จป บริหาร หรือผู้บริหารขององค์กรที่ผ่านการฝึกอบรม จป บริหาร  เองก็มีส่วนเกี่ยวข้องในการสสนับสนุน แนวทางแก้ไขปัญหาความปลอดภัยในองค์กร ให้เป็นไปตามกฎหมาย  หรือมาตรฐานกำหนด

ความสำคัญของ ACGIH ต่อประเทศไทย

ในประเทศไทย มาตรฐานของ ACGIH ถูกนำไปใช้อ้างอิงในหลายอุตสาหกรรม เช่น

  • โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้สารเคมีอันตราย หรือวัตถุอันตราย
  • งานที่เกี่ยวข้องกับเสียงดัง เช่น โรงงานผลิตเหล็ก
  • งานที่เกี่ยวข้องกับรังสี เช่น โรงพยาบาลหรือห้องทดลอง

ตัวอย่างในประเทศไทย:
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ได้นำค่า TLV ของ ACGIH มาใช้อ้างอิงในกฎกระทรวง เช่น กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับการทำงานในที่อับอากาศ

ข้อดีและข้อจำกัดของมาตรฐาน ACGIH

ข้อดีและข้อจำกัดของมาตรฐาน ACGIH

  1. ข้อดี
    • เป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เนื่องจากมีการวิจัยที่ครอบคลุมและอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
    • มีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันสมัย
    • ใช้งานได้หลากหลายอุตสาหกรรม
  2. ข้อจำกัด
    • ค่า TLV และ BEI ไม่สามารถใช้ได้กับคนทุกคน เนื่องจากแต่ละคนมีความไวต่อสารเคมีต่างกัน
    • องค์กรนี้ไม่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย

ตัวอย่างการนำ ACGIH ไปใช้ในสถานที่ทำงาน

  1. โรงงานอุตสาหกรรม
    ในโรงงานผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สารตัวทำละลาย เช่น โทลูอีน ค่า TLV ช่วยกำหนดมาตรการในการติดตั้งระบบระบายอากาศ
  2. งานก่อสร้าง
    งานเชื่อมโลหะที่เกิดควันและฝุ่นเชื่อมอันตราย ค่า TLV ช่วยกำหนดมาตรฐานสำหรับการใช้หน้ากากกรองอากาศ
  3. โรงพยาบาล
    ในแผนกที่มีการใช้งานรังสี เช่น ห้องเอกซเรย์ ค่า TLV ช่วยกำหนดการจัดการเวลาการสัมผัสรังสีของเจ้าหน้าที่นังสีเทคนิค ในโรงพยาบาล

อนาคตของ ACGIH และผลกระทบต่อสุขภาพในที่ทำงาน

ในอนาคต ACGIH จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนามาตรฐานและแนวทางปฏิบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับปัจจัยเสี่ยงใหม่ ๆ เช่น นาโนเทคโนโลยีและสารเคมีชนิดใหม่

สรุป

ACGIH เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน มาตรฐานที่ ACGIH กำหนดขึ้น เช่น ค่า TLV และ BEI ช่วยให้เราสามารถควบคุมความเสี่ยงจากสารเคมีและปัจจัยเสี่ยงทางกายภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่ใช่องค์กรที่มีอำนาจทางกฎหมาย แต่มาตรฐานของ ACGIH ได้รับการยอมรับในระดับสากลและถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

ในโรงงานอุตสาหกรรมนอกจากมาตรญาน ACGIH ยังมีมาตรฐานอื่นๆที่ใช้ในการจัดการความปลอดภัยในการทำงานอย่าง มาตรฐาน ISO 45001


บทความที่น่าสนใจ

บทความน่าสนใจ

ใบอนุญาตกรมสวัสดิการฯ

คลิกรูปเพื่อขยาย

ได้รับมาตรฐาน ISO 9001

คลิกรูปเพื่อขยาย

บริษัท เซฟตี้ เมมเบอร์

เลขที่ 349 อาคารเอสเจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ ชั้น 20 ห้องเลขที่ 2001-2005  ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

อีเมล
โทรศัพท์

คุณ แนน

เพิ่มเพื่อน

©2025 SAFETYMEMBER. Developed website and SEO by iPLANDIT