ระบบไฟฟ้าคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของอาคารทุกประเภท การมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าเบื้องต้นจึงไม่เพียงจำเป็นเฉพาะสำหรับช่างไฟฟ้าหรือวิศวกรเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับเจ้าของบ้าน ผู้เริ่มต้นทำงานด้านระบบไฟ หรือแม้แต่นักเรียนสายอาชีพด้านไฟฟ้า ความเข้าใจในอุปกรณ์ เช่น สวิตช์ เบรกเกอร์ หรือรีเลย์ ไม่เพียงช่วยในการติดตั้งหรือซ่อมแซมเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
ระบบไฟฟ้า
การทำงานกับระบบไฟฟ้าไม่ว่าจะในระดับแรงดันต่ำหรือแรงดันสูง ล้วนมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างสูง ดังที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางไฟฟ้าในสถานประกอบการในประเทศไทยยังคงพบอย่างต่อเนื่องทุกปี อุบัติเหตุเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ยังรวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อองค์กรในแง่ของการหยุดชะงักของการผลิต และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและชดเชย
ในการดำเนินงานตามสถานที่ทำงานที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการปฏิบัติงาน ระบบการขออนุญาตปฏิบัติงาน หรือ Work Permit เป็นสิ่งที่ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานมีความเข้าใจถึง มาตรการความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติตาม และส่งเสริมให้เกิดการควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้า มีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าที่สำคัญในสถานประกอบการ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยการใช้งาน การที่ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าไม่มีคุณสมบัติหรือความรู้ด้านไฟฟ้าโดยเฉพาะที่เพียงพอ ทำให้อาจละเลยจุดสำคัญของระบบไฟฟ้า ซึ่งจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟช็อต จนกระทั่งอาจเกิดการระเบิดไฟไหม้ที่จะสร้างควาเสียหายอย่างรุนแรง ดังนั้นกฎหมายจึงได้กำหนดให้ ผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
การทดสอบ ACB (Air Circuit Breaker) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการตรวจสอบและตรวจสอบความสามารถของ ACB ในการตัดไฟฟ้าและป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในกรณีฉุกเฉินหรือข้อผิดพลาดในระบบไฟฟ้า ตามกฎหมายควรทำการตรวจสอบ ACB หรือทดสอบทุกๆ 1 ปี โดยมีรายละเอียดของการทดสอบ ACB อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและรุ่นของ ACB
ISO/IEC 17025 เป็นมาตรฐานสากลที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยคณะกรรมการระหว่างประเทศ ISO (International Organization for Standardization) และ IEC (International Electrotechnical Commission) เพื่อกำหนดมาตรฐานคุณภาพสำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบและสอบเทียบ มาตรฐานนี้มีการอัพเดทและปรับปรุงใหม่เพื่อทำให้เข้ากับความต้องการและเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ระหว่างประเทศ